การเดินทางที่แสนยาวไกลกับความหวังที่มีต่อทีมของพี่ตาหวาน(แบรนดอน ร็อจเจอร์) เมื่อต้นฤดูกาลรับอย่างไม่อายเลยว่่า ผมคนหนึ่งหล่ะครับมีความหวังเป็นอย่างยิ่งว่าขุนพลเครื่องจักรสีแดงจะสามารถเข้าใกล้ หรือใกล้เคียง หรือเบียดลุ้นแชมป์กับคนอื่นเค้าบ้าง แต่พอมาถึงครึ่งฤดุกาลก้อขอแค่ให้ได้ไป Champion league ก้อพอ สุดท้ายผลงานก้อเป็นอย่างที่เห็นโดยไม่ต้องพูดอะไรกันมาก
แต่สิ่งที่เห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนและต้องชื่นชมอย่างยิ่งคือ
1. การทำประตูที่ได้มากขึ้นเป็นกอบเป็นกำ ซึ่งยิ่งได้ 70ประตู (ยังไม่รวมนัดสุดท้าย) เป็นอันดับ 4 รองจากแมนยู, เชลซี และอาร์เซนอล และโอกาสยิ่งประตูที่มีมากขึ้นเป็นกอบเป็นกำแต่ทำไม่ได้เอง
แต่สิ่งที่เห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนและต้องชื่นชมอย่างยิ่งคือ
1. การทำประตูที่ได้มากขึ้นเป็นกอบเป็นกำ ซึ่งยิ่งได้ 70ประตู (ยังไม่รวมนัดสุดท้าย) เป็นอันดับ 4 รองจากแมนยู, เชลซี และอาร์เซนอล และโอกาสยิ่งประตูที่มีมากขึ้นเป็นกอบเป็นกำแต่ทำไม่ได้เอง
2. ทีมแมวมองของพี่ตาหวานเค้า ผู้เล่นที่ซื้อมา สเตอร์ริด และคูตินโญ่ ทำผลงานได้ดีเยี่ยมแม้ไม่มีพี่ิเหยิน โดยล่าสุดพี่ริดกด Hattrick โดยที่คูตินโญ่ ส่ง killer pass ให้ 2 ลูก ซึ่งคูตินโญ่ดาวรุ่งวัยเพียง 20 ปีและเพิ่งย้ายมาแอนฟิลด์ไม่กี่เดือนถือว่าปรับตัวได้เร็วมาก
และถ้าจะไม่พูดถึงคงไม่ได้เลยทีเดียว กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน Premier league อาทิตย์นี้มีมากมายตั้งแต่
- การลาออกของ Sir Alex ซึ่งเป็นโอกาสให้ทีมอื่นๆในการลุ้นแชมป์อีกไม่น้อย โดย เดวิด มอยส์คงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ฤดูกาลในการสร้างทีมของเขา เพราะมอยส์เองบารมีไม่ถึงที่จะสามารถคุมทีมของป๋าเขาได้ คงต้องมีพยศ ซึ่งแค่ประกาศเปิดตัวก้อมีรูนี่แล้วหนึ่งที่อยากย้ายทีม
- การลาออกของมันชีนี่ มันชี่นี่ในสายตาผมยังไม่จี๊ดเท่าไร แต่ได้ลูกเฮง ต้องดูว่าผู้จัดการทีมคนใหม่เป็นใคร มีบารมี หรือจิตวิทยาพอจะคุมขุนพลหมื่นล้านได้หรือไม่
- ผู้จัดการทีมคนใหม่ของเชลซี ซึ่งอาจจะเป็นเฮียเครียด ซึ่งอันนี้จะทำให้หงส์มีงานยากขึ้นอย่างแน่นอน
นวหงส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น